ถือเป็นคติธรรมนำทาง เป็นเครื่องรางนำใจ นำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันของเรา ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะ ทำงานอะไรอยู่ที่ไหนก็ตาม
เป็นคติธรรมที่น่าทึ่ง และสำหรับฉันเองเป็นถ้อยคำที่เหมาะสมในการดำรงชีวิต ไม่ว่าเราจะเป็นชนชาติใดๆ ในโลกใบนี้ เพียงแต่เรารู้จักที่จะคิดว่าเราเป็นอะไร เป็นใคร เพียงแค่รู้จักตัวตนของตัวเองในการ ดำรงขีวิตและการมองโลกไม่ยากเลย เพียงแต่เรารู้จักที่จะใช้ปัญญาในการพินิจพิจารณา และมองมันว่าชีวิตของเราทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกใบนี้เป็นอย่างไร และควรทำอย่างไรบ้าง
นับจากวินาทีแรกที่ทุกชีวิตได้เกิดมา ไม่มีใครมีเสื้อผ้าติดกายมาเลยแม้แต่ชุดเดียว เมื่อเกิดมาแล้วสิ่งที่ได้ที่มีนับว่าเป็นสิ่งที่เราได้ คิดอย่างนี้แล้วสบายใจที่สุด ขอเพียงแต่เราอย่าได้เปรียบเที่ยบกับใครเขา เพียงเราทำสิ่งที่เรามีในปัจจุบันไม่ว่าจะมากหรือน้อย ขอเพียงแค่เราพึงพอใจในจุดที่เราดำรงชีวิตใน ปัจุบัน เชื่อมั่นในสิ่งที่คิดและทำ ทุกอย่างมีความเหมาะสมและพอดีอยู่ในตัวของจังหวะเวลาสถานที่ หากเราสามารถทำตัวเองให้อยู่ได้ในทุกที่ ยอมรับเงื่อนไขต่างๆที่เกิดขึ้นได้ ไม่ร้องขอจนเกินไป ช่วยตัวเองก่อนที่จะร้องขอให้คนอื่นช่วย เชื่อว่าทุกชีวิตประมาณตนเองได้ว่า สิ่งไหนเราไหวหรือไม่ มีข้อจำกัดอะไรบ้าง ในการเป็นชีวิตเรา
ถ้าไม่ไหว มันเกินไปในกำลังและความสามารถของเราเอง ไม่ต้องฝืน หากฝืนไปอาจยิ่งทำให้แย่ ทั้งตัวเองและคนใกล้ชิดรอบข้างของเราเอง อย่าไปฝืนกันเลย ถ้าทำได้แล้ว ตัวเราเองจะเห็นว่าความสุขเราจะหาได้ไม่ยากเย็นเลย ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น