Good Quote

Stand up for what is right. Even if you’re standing alone.

วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555

วงการยา...เน่าไม่เลิก


บริษัทยาข้ามชาติจับมือแก๊งค์หมอพาณิชย์ ผลักดันการจัดซื้อวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) เข้า ครม. เร็วๆนี้ โดยจะใช้งบจัดซื้อเข็มละ 500 บาท ต้องฉีด 3 เข็ม คือ 1500บาท กับเด็กหญิงปีละ ประมาณ 400,000 คน เป็นเงิน 600 ล้านบาท ซึ่งมากกว่างบประมาณที่ทุกวันนี้ใช้ซื้อวัคซีนจำนวน 8 ตัวที่ฉีดฟรีในเด็กทั่วประเทศ

ปัญหาที่สำคัญคือ ปีที่แล้วมีคนเสนอรัฐบาลที่แล้ว ในราคาเข็มละ 200 บาท กระทรวงสาธารณสุขยังปฏิเสธเพราะอยากเน้นการคัดกรองมะเร็งและราคายังไม่ต่ำ กว่า 190 บาทต่อเข็มตามที่ต่อรองไป เพราะวัคซีนนี้ต้นทุนไม่เกิน 90 บาทแน่ๆ

ทำไมต้องซื้อในราคาแพงขนาดนี้ ส่วนต่าง 500-190=310 บาท x 400,000 คน = 124 ล้านบาท กำลังจะถูกสูบไปอยู่กระเป๋าใคร

นี่ไม่ใช่การกินแค่ปีเดียว แต่นับจากนี้ต้องซื้อทุกปี กินกันระยะยาวนานนน

งานวิชาการของโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ชี้ว่าสถานการณ์ปัจจุบัน มะเร็งปากมดลูกพบมากเป็นอันดับสองในหญิงไทย มีจำนวนผู้ป่วยใหม่ 6,000 รายต่อปี และเสียชีวิต 2,000 รายต่อปี มีวิธีการป้องกัน 2 วิธี ได้แก่ การตรวจคัดกรองและการให้วัคซีน HPV

วัคซีน HPV
(1) ป้องกันการติดเชื้อ Human Papilloma Virus (HPV) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
ปากมดลูก แต่เนื่องจากเชื้อมีหลายสายพันธุ์ และแตกต่างกันในแต่ละประเทศ คาดว่าวัคซีนป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยได้ 50-70% ของผู้ที่ฉีดวัคซีน
(2) อายุที่เหมาะสมสำหรับการฉีดวัคซีนคือก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หากฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว วัคซีนอาจไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้
(3) ยังไม่มีข้อมูลถึงประสิทธิผลของวัคซีนในระยะยาวเกินกว่า 10 ปี ทำให้ไม่ทราบว่าการฉีดวัคซีน 3 เข็มตอนเริ่มต้นจะสามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้นานเพียงใด
(4) จากการประเมินความคุ้มค่าของวัคซีน HPV ในประเทศไทยพบว่า วัคซีนที่ราคาปัจจุบัน 2,000 บาทต่อเข็ม ไม่มีความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับการคัดกรอง ยกเว้นเมื่อวัคซีนมีราคาต่ำกว่า 190 บาทต่อเข็ม ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของการฉีดวัคซีนเท่ากับงบประมาณที่จะประหยัดได้จากการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกในอนาคต
(5) ความคุ้มค่าของวัคซีนจะลดลง หากวัคซีนไม่สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้ตลอดอายุ เช่น หากต้องการฉีดกระตุ้นในอนาคตราคาวัคซีนต้องต่ำกว่า 24-81 บาทต่อเข็มจึงมีความคุ้มค่า ขึ้นกับว่าต้องฉีดอีกกี่เข็
(6) ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องดำเนินการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตามเดิมทุกประการ ไม่ได้ลดต้นทุนในส่วนน

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ความครอบคลุมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 70 ซึ่งสูงขึ้นกว่าสถานการณ์ก่อนปีพ.ศ.2548 ที่มีการคัดกรองร้อยละ 20 จากการเพิ่มขึ้นของการตรวจคัดกรองนี้คาดว่าใน 5-10 ปีข้างหน้าจะมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกลดลง 1,500 คนต่อปี และป้องกันการเสียชีวิตได้ 750 คนต่อปี พร้อมกับประหยัดงบประมาณในรักษาปีละ 102 ล้านบาท

ข้อเสนอ
(1) เพิ่มความครอบคลุมการตรวจคัดกรองให้ได้ตามเป้าหมายของประเทศคือร้อยละ 80 ซึ่งจะลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งได้อีก 530 ราย และลดจำนวนผู้เสียชีวิต 240 ราย
(2) หากให้วัคซีน HPV แก่หญิงไทยควรพิจารณาราคาที่เหมาะสมดังตัวเลขข้างต้น และเน้นให้มีการตรวจ คัดกรองมะเร็งครอบคลุมให้ได้ร้อยละ 80 เพราะพบว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งเข้าใจผิดว่า การฉีดวัคซีนสามารถทดแทนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง
(3) ควรผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการชุดสิทธิประโยชน์ฯของ สปสช. รวมทั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เพราะจะต้องพิจารณาวัคซีนใหม่ไปพร้อมกันอีกหลายตัว

 — with 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น